เหยื่อหวัดนก'H7N9'ในจีนพุ่ง20ศพ ติดเชื้อแล้ว102ราย

     จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 20 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่พบเพิ่มขึ้นเป็น 102 ราย...

     สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานเมื่อวันที่ 22 เม.ย. อ้างรายงานประจำวันของสำนักงานวางแผนครอบครัวและสุขภาพแห่งชาติจีน ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ในประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 20 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่พบเพิ่มขึ้นเป็น 102 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทางตะวันออก เช่น นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู และมณฑลอันฮุย

     ก่อนหน้านี้ สำนักงานวางแผนครอบครัวและสุขภาพแห่งชาติจีน เผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ H7N9 กว่าร้อยละ 40 ไม่เคยสัมผัสกับสัตว์ปีก ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหะนำโรคมาก่อน ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า อาจมีสัตว์ชนิดอื่นสามารถเป็นพานะนำเชื้อได้ รวมถึงการติดต่อจากคนสู่คนด้วย

     อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่ายังไม่มีการพบหลักฐาน ว่าเชื้อไข้หวัดนกสายพันธ์ุใหม่นี้ สามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขในหลายประเทศ ต่างเข้ามาศึกษาเชื้อไวรัส H7N9 เพื่อหาทางผลิตวัคซีนป้องกัน


ที่มา:เวปข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

SombatNet

จาก H5N1 ถึง H7N9 อย่าทำเป็นเล่น

credit: ชาติชาย ศิริพัฒน์ ข่าวไทยรัฐ

ไข้หวัดนกกลับมาเป็นข่าวดังอีกแล้ว...ข้างบ้านเราสายพันธุ์ H5N1 ทำชาวเขมรตายไปแล้ว 8 คน ขณะเดียวกัน สายพันธุ์ H7N9 ทำให้ชาวจีนเสียชีวิตไปแล้ว 11 ราย

ไข้หวัดนก 2 สายพันธุ์รุนแรงสำหรับสัตว์ปีก มะรุมมะตุ้มใกล้ไทยในห้วงเวลาเดียวกัน

น.สพ.ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า สิ่งที่น่ากังวลคือการลักลอบใช้วัคซีนไข้หวัดนกกับไก่ ที่อาจจะมีผู้ประกอบการบางรายนำมาใช้ จึงอยากเตือนให้ระวัง...อย่าใช้วัคซีนเด็ดขาด

คงจำได้ 10 ปีที่แล้ว ไข้หวัดนก H5N1 ระบาดในบ้านเราและมีเสียงเรียกร้องให้นำเข้าวัคซีนมาใช้ แต่กรมปศุสัตว์ไม่ยอม เพราะคิดว่าไม่คุ้ม จะเสียมากกว่าได้...และวันนี้ได้เห็นแล้วว่าไม่ใช้วัคซีนมีได้มากกว่าเสีย เราสามารถทำให้ประเทศปลอดหวัดนก และส่งไก่ดิบไปขายได้ในหลายประเทศแล้ว

ในขณะที่จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งใช้วัคซีน...วันนี้ยังมีปัญหาไข้หวัดนก ไม่สามารถส่งไก่ดิบออกไปขายได้

ฉีดวัคซีนให้ไก่ ทำไมถึงมีปัญหาไม่จบไม่สิ้นเสียที...???

นั่นเพราะ หนึ่งนั้น ไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ได้ง่าย อยู่ผิดที่ผิดถิ่นกลายพันธุ์ได้ตามสภาพแวดล้อม และวัคซีนที่จะเอามาใช้ได้ผลจะต้องทำมาจากเชื้อไข้หวัดนกที่เหมือนกับเชื้อในท้องถิ่น 97%...แต่ก็ใช้ฉีดป้องกันการระบาดได้แค่ครั้งนั้น ครั้งต่อไปเชื้อกลายพันธุ์เพี้ยนไปจากเดิม ก็ต้องทำวัคซีนตัวใหม่มาใช้

สอง วัคซีนต้องผลิตจากไข่ไก่ปลอดเชื้อจริงๆ ไม่ใช่เอาไข่อะไรก็ได้ ไข่ที่เอามาทำวัคซีนฟองละ 50-100 บาท...ไม่ใช่ใบละ 3-4 บาทที่เรากินกัน

วัคซีนที่จะเอามาใช้ส่วนใหญ่มาจากจีน นอกจากจะทำมาจากเชื้อที่ไม่เหมือนเชื้อในไทยแล้ว ไข่ที่เอามาทำวัคซีนก็ไม่รู้ว่าบริสุทธิ์ปลอดเชื้อจริงแค่ไหน...รู้อยู่แก่ใจ มาตรฐานจีนเป็นอย่างไร ซื้อมาใช้จะคุ้มหรือเปล่า

และเหตุผลที่สาม สำคัญยิ่ง...ไก่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ไม่ได้แปลว่าไก่ไม่มีเชื้อไข้หวัดนก ไก่ยังมีเชื้อโรคอยู่ในตัว เพียงแต่ไม่แสดงอาการป่วยให้เราได้เห็นเท่านั้นเอง...สิ่งที่ตามมาคนเลี้ยง เจ้าของฟาร์ม จะหลงผิดคิดว่าไก่ไม่เป็นโรค เข้าไปสัมผัสชิดใกล้แบบไม่ระมัดระวังป้องกัน ทำให้เชื้อหวัดนกสามารถผ่องถ่ายจากไก่มาสู่คนเลี้ยงและเจ้าของฟาร์มได้ เหมือนกับการเสียชีวิตของคนที่เกิดในจีน เวียดนาม และกัมพูชา (เพียงแต่กัมพูชาจะต่างกันตรงที่ได้รับไก่ฉีดวัคซีนมาจากเวียดนามอีกต่อหนึ่งเท่านั้น)

เหตุผลอีกประการ...ไก่ฉีดวัคซีนไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ เพราะถ้าต่างประเทศตรวจพบไก่มีภูมิคุ้มกันไข้หวัดนกจากการฉีดวัคซีน จะถูกระงับการนำเข้าทันที

เพราะเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศนั้นมีการระบาดของไข้หวัดนก เพราะถ้าไม่มีหวัดนกระบาดจะเสียเงินไปฉีดวัคซีนทำไม...นี่แหละฉีดวัคซีน มีแต่เสียมากกว่าได้

SombatNet